สำหรับถุงมือแล้ว กฎสหภาพยุโรป (EU) มาตรา 10/2011 ลงวันที่ 14 มกราคม 2011 เกี่ยวกับวัสดุพลาสติก และชิ้นงานที่อาจสัมผัสกับอาหาร ถูกนำมาใช้สำหรับถุงมือที่ต้องสัมอาหาร กฎข้อนี้ใช้ควบคุมการผลิต และการตลาดของวัสดุพลาสติก รวมถึงวัสดุอื่นที่เกี่ยวข้องกันที่
1
อาจสัมผัสกับอาหาร
2
สัมผัสกับอาหารอยู่แล้ว
3
มีเหตุผลมากพอ
ที่อาจสัมผัสกับอาหารได้
กฎข้อนี้กำหนดให้วัสดุและชิ้นงาน รวมถึงวัสดุหลัก และวัสดุจำลอง และชิ้นงาน ต้องผลิตตามมาตรฐานการผลิตที่ดี เพื่อให้แน่ใจว่า ในสภาวะปกติของการใช้วัสดุ หรือชิ้นงานเหล่านั้น จะไม่ก่อให้เกิดการถ่ายโอนอนุภาคของวัสดุ หรือชิ้นงาน ไปสู่อาหารได้ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค หรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบของอาหารในระดับที่ยอมรับไม่ได้ หรือทำให้เกิดการเสื่อมสลายของลักษณะทางอินทรีย์
เพื่อจะให้เป็นไปตามข้อบังคับเหล่านี้ ลำดับแรก ถุงมือต้องผลิตจากวัสดุ ที่อยู่ในรายการสารที่ได้รับการอนุมัติแล้วตามประกาศสหภาพยุโรป ลำดับที่สอง ถุงมือต้องผ่านการทดสอบการซึมผ่าน มีการทดสอบการซึมผ่านอยู่สองประเภทด้วยกันคือ การซึมผ่านแบบรวม และการซึมผ่านแบบเฉพาะเจาะจง
การซึมผ่านแบบรวม

เป็นการทดสอบความคงที่ของวัสดุที่สัมผัสกับอาหาร การทดสอบจะดูปริมาณของอนุภาคพลาสติก ที่ถ่ายโอนไปสู่อาหารระหว่างการสัมผัส กฎข้อนี้กำหนดไว้ว่า ชิ้นงานพลาสติกจะต้องไม่ถ่ายโอนอนุภาคของตัวมันเอง ไปยังสารจำลองอาหารมากกว่า 10 มิลลิกรัม ของอนุภาคทั้งหมดที่ปล่อยออกไปต่อ dm2 ของผิวสัมผัสอาหาร
การซึมผ่านแบบเฉพาะเจาะจง
การซึมผ่านแบบเฉพาะเจาะจง เป็นการทดสอบว่า การถ่ายโอนอนุภาคไปสู่อาหาร จะถูกจำกัดอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ระดับที่อณุญาตให้ซึมผ่านได้ถูกกำหนดไว้ในข้อบังคับ อย่างไรก็ตาม การใช้ระดับการซึมผ่านที่ไม่เกิน 60มก/กก ก็สามารถใช้ได้กับอนุภาคทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องยึดระดับที่อณุญาตให้ซึมผ่านได้ตามกฎข้อบังคับ
